วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558

สถานที่ท่องเที่ยวปราจีนบุรี

สถานที่ท่องเที่ยวปราจีนบุรี



ศรีมหาโพธิ์คู่บ้าน ไผ่ตงหวานคู่เมือง ผลไม้ลือเลื่อง เขตเมืองทวารวดี
จังหวัดปราจีนบุรีตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภาคกลาง เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีทรัพยากรในด้านการท่องเที่ยวมากมายและหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะผืนป่ามรดกโลกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่นับเป็นสมบัติล้ำค่าในด้านของทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งของประเทศและของโลกเดิมปราจีนบุรีเป็นจังหวัดใหญ่ มีพื้นที่กว้างขวางเป็นอันดับ 6 ของประเทศ แต่ภายหลังได้มีการแยกจังหวัดออกจากมณฑลปราจิณ ตั้งเป็นจังหวัดนครนายกและฉะเชิงเทรา และในปี พ.ศ. 2536 ก็ได้มีพระราชบัญญัติแยกพื้นที่บางอำเภอออกจากจังหวัดปราจีนบุรีอีกครั้ง แล้วตั้งเป็นจังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรีจึงมีขนาดเท่ากับในปัจจุบันนับแต่นั้นมา




จังหวัดปราจีนบุรีมีเนื้อที่ประมาณ 4,762 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 3,054,449 ไร่ จัดเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 45 ของประเทศไทย สภาพพื้นที่แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ เขตที่ราบสูงทางตอนบนของจังหวัด ติดเทือกเขาดงพญาเย็น บริเวณรอยต่อของจังหวัดนครนายกและจังหวัดนครราชสีมา มีลักษณะเป็นที่ราบสูงคล้ายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มียอดเขาสูง 1,326 เมตร พื้นที่ส่วนมากเป็นป่าทึบและเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำหลายสาย และเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำทางตอนล่าง มีแม่น้ำสายสำคัญ คือ แม่น้ำบางปะกง ซึ่งเกิดจากแควหนุมานและแควพระปรง ไหลมาบรรจบกันที่อำเภอกบินทร์บุรี ผ่านอำเภอศรีมหาโพธิ อำเภอประจันตคาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอบ้านสร้าง แล้วไหลเข้าสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา บริเวณแถบนี้เหมาะแก่การเพาะปลูก โดยเฉพาะการทำสวนผลไม้บริเวณที่ตั้งของจังหวัดปราจีนบุรีในปัจจุบัน พบว่ามีการตั้งถิ่นฐานของชุมชนสมัยโบราณตั้งแต่เมื่อประมาณ 2,000–2,500 ปี มาแล้ว ซึ่งตรงกับสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย และมีอารยธรรมเจริญรุ่งเรืองตั้งแต่สมัยทวารวดีต่อเนื่องมาจนถึงสมัยลพบุรี ดังปรากฏหลักฐานเป็นซากเมืองโบราณที่เรียกว่า “เมืองศรีมโหสถ” ที่ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ และทางด้านทิศตะวันออกของเมืองศรีมโหสถ บริเวณบ้านโคกขวาง อำเภอศรีมหาโพธิ ยังพบชุมชนโบราณอายุร่วมสมัยเดียวกันกับเมืองศรีมโหสถ บริเวณซากเมืองโบราณเหล่านี้มีซากโบราณสถานที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและพบโบราณวัตถุต่างๆ ได้แก่ พระพุทธรูป เทวรูป เครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือเครื่องใช้ประเภทสำริด กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปต่อมาศูนย์กลางความเจริญได้ย้ายมาอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงเช่นในปัจจุบัน มีชุมชนหนาแน่นจนเกิดเป็นเมืองขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เรียกว่า “เมืองปราจีน” และในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นเรียกว่า “เมืองปราจิณ” หรือ “มณฑลปราจิณ” ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โปรดให้จัดระเบียบการปกครองแผ่นดินตามแบบต่างประเทศ มณฑลปราจิณถูกยุบเลิก คงมีฐานะเป็นเพียงหัวเมืองเมืองหนึ่ง ต่อมาโปรดให้เปลี่ยนคำว่า “เมือง” เป็น “จังหวัด” จึงมีชื่อเรียกใหม่ว่า “จังหวัดปราจีนบุรี” ปัจจุบันปราจีนบุรีแบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ คือ อำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอบ้านสร้าง อำเภอประจันตคาม อำเภอศรีมโหสถ อำเภอศรีมหาโพธิ อำเภอกบินทร์บุรี และอำเภอนาดี

ทิปส์ท่องเที่ยว
  • ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการล่องแก่งหินเพิงคือในฤดูฝน ประมาณเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่สายน้ำสวยงามมากที่สุด
  • สำหรับกิจกรรมล่องแก่ง นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบระดับน้ำในลำน้ำ ณ ช่วงเวลานั้นๆ ก่อนออกเดินทาง เนื่องจากในบางช่วงของฤดูน้ำหลาก ระดับน้ำในลำน้ำอาจสูงและไหลเชี่ยวจนไม่สามารถลงล่องแก่งได้ โดยสามารถสอบถามโดยตรงได้จากโรงแรมที่พัก หรือผู้ประกอบการนำล่องแก่งที่ท่านใช้บริการ
  • ข้อปฏิบัติในการล่องแก่ง คือ ควรละเว้นการดื่มสุราและของมึนเมาในขณะลงล่องแก่ง สวมชูชีพและหมวกกันน็อกตลอดเวลา และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของไกด์นำทางโดยเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย
  • ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
  • มักจะเจอฝูงลิงป่าอยู่เป็นจำนวนมากตลอดสองข้างทางในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นักท่องเที่ยวไม่ควรให้อาหารลิงป่าโดยเด็ดขาด
  • เที่ยวปราจีนบุรีช่วงหน้าฝน ต้องไม่พลาดเมนูหน่อไม้ไผ่ตงสด ที่ทั้งหวาน กรอบ อร่อย และราคาถูกเป็นพิเศษ หาซื้อได้ง่ายตามตลาดสด ตลาดนัด และริมเพิงข้างทางทั่วไป

แหล่งเรียนรู้อำเภอศรีมโหสถ

แหล่งเรียนรู้อำเภอศรีมโหสถ

โบราณสถานวัดสระมรกต
เมืองศรีมโหสถเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดปราจีนบุรี เดิมชื่ออำเภอโคกปีบแต่ด้วยความที่เป็นเมืองเก่าแก่มีอายุมากว่า 1,200 ปีหรือพุทธศตวรรษที่ 6 เป็นต้นมา ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าชายทะเลที่สำคัญเป็นศูนย์กลางความเจริญทางด้านศิลปะวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และศาสนาพุทธอโรคยาศาลหรือโรงพยาบาลสมัยโบราณ ภายในโบราณสถานสระมรกตได้ค้นพบสิ่งสำคัญเช่นรอยพระพุทธบาทคู่


เป็นรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ สลักบนพื้นศิลาแลง อายุราว พุทธศตวรรษที่ 11-16 นับว่าเป็นพระพุุทธบาทคู่ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ประดิษฐานอยู่ในบริเวณโบราณสถานสระมรกต ปัจจุบันมีประชาชนให้ความสนใจเดินทางมากราบไหว้และเป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป


แหล่งเรียนรู้อำเภอศรีมหาโพธิ

แหล่งเรียนรู้อำเภอศรีมหาโพธิ

โบราณสถานลายพระหัตถ์
       ตั้งอยู่ในเขตบ้านโคกขวาง ตำบลหนองโพรง หรือเมืองนางอมรเทวีโบราณสถานลายพระหัตถ์ คือ ซากเทวาลัยสมัยลพบุรี อายุสมัยเดียวกับเมืองศรีมโหสถ และเมืองนางอมรเทวี มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 12-13 ก่อด้วยฐานศิลาแลงเป็นชั้น ๆ ขึ้นไป แต่ปรักหักพังคล้ายผิวจอมปลวก



ครั้นถึง รศ. 127 (พ.ศ.2451) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว ได้เสด็จมาทอดพระเนตรและได้ทรงลงพระปรมาภิไธย ย่อไว้ที่แผ่นศิลาแลงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดสูง 1.00 เมตร กว้าง 0.50 เมตร ยาว 1.00 เมตร อันตั้งอยู่บนฐานเทวาลัยว่า “จ.ป.ร.127”  ซึ่งพระปรมาภิไธยย่อนี้ต่อมาในปี พ.ศ. 2457 ราษฎรได้ร่วมกันสร้างมณฑปครอบไว้ 



แหล่งเรียนรู้อำเภอเมืองปราจีนบุรี

แหล่งเรียนรู้อำเภอเมือง

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
อยู่ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  ถนนปราจีนอนุสรณ์  ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นตึกสองชั้นแบบยุโรป  สมัยเรอเนสซองส์  เคยใช้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี  พ.ศ. 2455  รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์คราวเสด็จมณฑลปราจีนบุรี  กรมศิลปากรได้
ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน และได้มีการเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการ


เมื่อวันที่  24  มิถุนายน  พ.ศ.  2539  ได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทย  การแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี  เป็นแหล่งการศึกษาค้นคว้าวิจัย  และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรและการแพทย์ของท้องถิ่น
นอกจากนี้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  ยังมีโครงการทัวร์สุขภาพเป็นโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว  โดยใช้สมุนไพรบำบัดและยารักษาโรค  มีการนวด  อบ  ประคบ  และฝังเข็ม  แปรรูปสมุนไพรไทยเป็นเวชภัณฑ์